วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

ที่ศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๒ เวลาประมาณ ๑๑.๓๐ น. คนพิการทุกประเภทกว่า ๓๐๐ คน ทั้งที่เป็นคนพิการทางการเคลื่อนไหวที่ต้องใช้เก้าอี้เข็น “มนุษย์ล้อ” คนตาบอด คนหูหนวก และผู้ปกครองคนออทิสติก เป็นต้น ได้ร่วมชุมนุมกันบริเวณหน้าประตูเข้าอาคารศาลปกครอง โดยนายสุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ ในนามของประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความเสมอภาค ชมรมมนุษย์ล้อนานาชาติ และเครือข่ายคนพิการได้ประกาศให้ วันที่ ๒๒ กันยายน เป็นวัน “ปลดแอกมนุษย์ล้อแห่งชาติ” พร้อมทั้งเชิญชวนทุกคนร่วมฟังศาลพิพากษาในคดี นายสุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ ที่ปรึกษาสภาผู้พิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย กับพวก ยื่นฟ้อง กทม. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. (ในขณะนั้น) ผอ.สำนักการโยธา และบริษัทบีทีเอส ในข้อกล่าวหาที่หน่วยงานดังกล่าวละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่จัดลิฟต์และสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการเข้าถึงและใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ทั้ง ๒๓ สถานี ทำให้คนพิการเดือดร้อน ไม่สามารถเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าบีทีเอสอย่างเท่าเทียมกับคนทั่วไป โดยหลังฟังคำพิพากษา จะมีการแถลงจุดยืนในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของมนุษย์ล้อ
เวลาประมาณ ๑๓.๔๐ น. ศาลได้พิพากษา “ยกฟ้อง" คดีดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า ผู้ถูกฟ้องทั้ง ๔ ไม่ได้ละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากผู้ถูกฟ้องได้ดำเนินการก่อสร้างสถานีและจัดบริการรถไฟฟ้าบีทีเอสตามสัญญาโครงการระบบขนส่งมวลชน ซึ่งเป็นการทำสัญญาก่อนที่กฎกระทรวงแห่ง พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. ๒๕๓๔ บังคับใช้ นอกจากนั้น ผู้ถูกฟ้องยังได้พยายามบริการคนพิการโดยจัดลิฟต์ให้ ๕ สถานีแล้ว
หลังศาลอ่านคำพิพากษา นายสุภรธรรม และคณะกรรมการอิสระเพื่อความเสมอภาคได้ประกาศถ้อยแถลงจุดยืนการต่อสู้เพื่อ “ปลดแอกมนุษย์ล้อสู่อิสรภาพ” ว่า น้อมรับคำตัดสินของศาล อย่างไรก็ตาม คนพิการจะผนึกกำลังสู้ ต่อไป ดังนี้ ๑. เราขอเรียกร้องให้กรุงเทพมหานครและบริษัท BTS แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการติดตั้งลิฟต์และให้บริการสำหรับมนุษย์ล้อและประชาชนทั้งมวลอย่างเท่าเทียม ๒. เราจะใช้สิทธิตามกฎหมายในการยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งใช้สิทธิตามกฎหมายอย่างจริงจังต่อโครงการก่อสร้างที่ขัดขวางต่อวิถีชีวิตอิสระของเพื่อนคนพิการ ๓. เราจะเจาะ เกาะติด สำรวจ ตรวจสอบ และตีแผ่อาคาร สถานที่ ยานพาหนะ และบริการสาธารณะที่เป็นอันตรายหรือปิดกั้นอิสรภาพของมนุษย์ล้อและประชาชน ๔. เราจะเผยแพร่ความรู้และประชาสัมพันธ์แบบอย่างที่ดีในการเอื้ออำนวยความสะดวกสำหรับคนทั้งมวล พร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในการปรับปรุงและสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และ ๕. เราจะรณรงค์ให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ หรือมาตรการต่างๆ ให้ทันสมัย เพื่อกำหนดให้บริการสาธารณะทั้งใหม่และเก่าต้องปราศจากอุปสรรคสำหรับคนทั้งมวล (มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๒ )

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

รูปภาพ


วิชาคอมพิวเตอร์

1 ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์


โดยหลักการแล้ว ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ที่ทำงานตามหน้าที่ 4 ส่วนด้วยกัน คือ 1.) ส่วนรับข้อมูล (Input Unit) 2.) ส่วนประมวลผลข้อมูล (Central Processing Unit) 3.) ส่วนแสดงผล (Output Unit) 4.) หน่วยความจำ (Memory Unit)

2.) ส่วนประมวลผลข้อมูล

ส่วนประมวลผลข้อมูล (Central Processing Unit) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลที่รับมาจาก ส่วนรับข้อมูล(Input Unit) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ อีกทั้งยังทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานต่างๆ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์

http://computer.kapook.com/component.php

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

ที่มาของเว็บ

ที่มาของเว็บ


http://eastern.nfe.go.th/nfe/8103-02-0013.htm

สิ่งประดิษฐ์

สิ่งประดิษฐ์สวยด้วยวัสดุเหลือใช้




1. หลักสูตร

้สิ่งประดิษฐ์สวยด้วยวัสดุเหลือใช้

2. ความสำคัญและความจำเป็นของหลักสูตร
การรู้จักวิธีกำจัดวัสดุเหลือใช้หรือการเปลี่ยนสภาพของวัสดุเหลือใช้อย่างถูกต้อง เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดขยะให้น้อยลง และเพิ่มประโยชน์ในการใช้วัสดุนั้นๆ ทำให้ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ รวมทั้งช่วยลดปัญหามลพิษที่จะกำจัดให้ได้อีกด้วย
3. วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ จากวัสดุที่เหลือใช้ได้จุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถ1. บอกประเภทของวัสดุเหลือใช้ในบ้าน2. บอกวิธีกำจัดวัสดุเหลือใช้ในบ้านได้ถูกต้อง 3. บอกคุณค่าของวัสดุเหลือใช้ได้4. บอกวิธีและประดิษฐ์สิ่งของจากวัสดุเหลือใช้ตามที่กำหนดได้
4. คุณสมบัติผู้เรียน
ประชาชนทั่วไปที่สามารถอ่านและเขียนภาษาไทยได้ โดยไม่กำจัดเพศ อายุ และวุฒิทางการศึกษา
5. เนื้อหา
- วัสดเหลือใช้ในบ้าน- วัสดุเหลือใช้กับสิ่งแวดล้อม- คุณค่าของวัสดุเหลือใช้ - สิ่งประดิษฐ์ด้วยวัสดุเหลือใช้
6. รูปแบบการเรียนรู้




เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยวิธีเรียนทางไกล
7. อุปกรณ์และสื่อการเรียน
- เอกสารการศึกษา สิ่งประดิษฐ์สวยด้วยวัสดุเหลือใช้- วัสดุอุปกรณ์ของจริงที่ใช้ในการประดิษฐ์- แหล่งศึกษาดูงาน- บุคคลผู้รู้
8. การประเมินผลการเรียน
- ผู้เรียนประเมินผลด้วยตนเอง โดยทำแบบทดสอบก่อน-หลังเรียนและทำกิจกรรมทุกกิจกรรมที่นำเสนอในสื่อสิ่งพิมพ์ แล้วตรวจกับเฉลยและแนวตอบกิจกรรม-ประเมินผลการปฏิบัติโดยครู กศน. หรือผู้รู้
9. วัน เดือน ปีที่เรียน
-
10. ระยะเวลาเรียน
จำนวน 30 ชั่วโมง
11. สถานที่เรียน
เรียนรู้ด้วยตนเองสถานที่ใดก็ได้
12.ชื่อครูผู้สอน/วิทยากร
-

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

รูปของฟักทอง

พันธุ์ฟักทอง




พันธุ์คางคก หรือพันธุ์ดำ ผิวขรุขระมาก





ก า ร ดู แ ล รั ก ษ า แ ล ะ ใ ส่ ปุ๋ ย

เมื่อต้นกล้างอกจะมีใบจริง 2-3 ใบแล้ว ควรถอนแยกต้นที่ไม่สมบูรณ์ทิ้งไป เหลือต้นที่สมบูรณ์แข็งแรง เหลือหลุมละ 2 ต้น และรดน้ำทุกวัน
เมื่อต้นกล้าเจริญจนไม่มีใบจริง 4 ใบ ช่วงนี้ให้ใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟตหรือปุ๋ยผัก (21-0-0) ละลายน้ำแล้วใช้รดต้นฟักทอง ต้องรดน้ำทุกวัน
เมื่อฟักทองเริ่มออกดอก ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 (หรือสูตรใกล้เคียงกัน เช่น 13-13-27 หรือ 14-14-21) โรยรอบๆ ต้นแล้วรดน้ำตามและใส่ปุ๋ยอีกครั้งเมื่อฟักทองเริ่มติดผลอ่อน
พันธุ์ฟักทองที่เป็นพันธุ์หนักให้ผลโต อายุเก็บเกี่ยวยาวนาน ดังนั้นการใส่ปุ๋ยให้ฟักทองพันธุ์หนักควรใส่มากกว่าพันธุ์เบา
การรดน้ำต้องรดน้ำทุกวัน จนคะเนว่าอีก 15 วัน จะเก็บผลแก่ได้ จึงเลิกรดน้ำ